คณะสื่อสารมวลชน
มหาวิทยาลัยรามคำแหง

“มัท-มัทนาวดี” ว่าที่บัณฑิตสื่อสารมวลชน ภาคพิเศษ ประสบความสำเร็จด้วยคำว่า “เราทำได้”

cover2

 

“เราทำได้” เป็นคำหนึ่งที่ มัท-มัทนาวดี พลรัตน์ ว่าที่บัณฑิตคณะสื่อสารมวลชน ภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ใช้เสมอในช่วงที่เรียนอยู่และสิ่งนี้เองทำให้เธอเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยสูงถึง 3.70 

 

มัท-มัทนาวดี เริ่มต้นบทสนทนาด้วยการบอกว่า “หนูเป็นเด็กซิ่ว มาจากสาขาวิศวะวัสดุ  มหาวิทยาลัยปิดแห่งหนึ่ง พอเรียนไปได้ 2 ปีแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แล้วในช่วงนั้นก็ได้ไปช่วยเพื่อนทำกิจกรรมกับเพื่อนที่เรียนสายนิเทศศาสตร์แล้วรู้สึกชอบมาก เลยตัดสินออกจากคณะที่เรียนแล้วหาที่เรียนใหม่”

 

เมื่อถามถึงการต่อต้านจากพ่อ-แม่ที่จะออกจากที่เดิมเพื่อหาที่เรียนใหม่ มัทตอบอย่างภูมิใจว่า พ่อ-แม่เข้าใจและสนับสนุนเต็มที่เพื่อให้ลูกได้เรียนสิ่งที่ชอบ โดยไม่กำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะต้องเรียนให้มหาวิทยาลัยปิดเท่านั้น

 

และสิ่งนี้เองทำให้เธอต้องมองหาที่เรียนใหม่ในสายนิเทศศาสตร์ หรือ สื่อสารมวลชน ที่จะตอบโจทย์ความสนุกในการเรียนของเธอ สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจมาเรียนที่คณะสื่อสารมวลชน ภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

“ต้องยอมรับว่าตอนแรกที่ตัดสินใจเรียนภาคพิเศษ เพราะจบได้เร็วกว่าภาคปกติค่ะ บวกกับเป็นคนที่กลัวความสบาย กลัวว่าถ้าเราทำอะไรที่มีอิสระมาก ๆ จะทำให้เราเป็นคนที่ขี้เกียจ ตอนนั้นเราทราบมาว่า การเรียนการสอนภาคพิเศษจะมีการเช็คชื่อเข้าเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับเรา ทำให้เรามีวินัยในการเรียนมากขึ้น จึงตัดสินใจเลือกเรียนภาคพิเศษค่ะ”  – มัทนาวดีกล่าว

 

 

ทั้งนี้ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ตลอดเวลา สิ่งนี้เองทำให้เธอมองว่าการเรียนภาคพิเศษที่นี่เหมาะกับเธอมาก ๆ เพราะเป็นการเรียนภาคค่ำทำให้มีเวลาในช่วงกลางวัน ไปหาความรู้อื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายอย่าง ทั้งการลงคอร์สศิลปะ คอร์สถ่ายภาพ หรือการทำงานพาร์ทไทม์ และอีกสิ่งที่เป็นข้อดีก็คือ “บรรยากาศในห้องเรียน” ที่เป็นกันเองมาก ทำให้เมื่อสงสัยตรงจุดไหนก็สามารถซักถามได้ทันที

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ มัท-มัทนาวดี บอกว่าเธอชอบมากจากการเรียนในหลักสูตรนี้คือ “เพื่อนร่วมรุ่น” ที่กิจกรรมในชั้นเรียนทำให้สนิทกันเร็ว นอกจากนี้เพื่อนในรุ่นยังมีความหลากหลายของอาชีพ ทำให้มีมุมมองในการเรียนที่หลากหลาย รวมถึงคอนเน็คชั่นในการทำงานอีกด้วย

 

“เพื่อนๆในรุ่นส่วนใหญ่ก็จะทำงานแล้ว ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนทัศนคติของเพื่อนๆในแต่ละสายอาชีพ บางคนก็เป็นดารา บางคนก็เป็นนักข่าว หรือ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐก็มี ทั้งหมดที่จะบอก ก็คือ ความหลากหลายของเพื่อนๆในชั้นเรียน ทำให้เรียนมี Connection ที่หลากหลายและดีมากๆ ค่ะ”

 

 

กับคำถามที่ว่าเรียนแล้ว เอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง เธอก็บอกให้เราฟังว่า เธอก็เคยตั้งคำถามแบบนี้มาตลอด แต่ตอนนี้เมื่อออกไปทำงานจริง ก็พบว่าทุกวิชาที่เรียนเอาไปใช้งานจริงได้หมด โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ทุกคนต้องการสื่อสารผ่านสื่อต่าง ๆ ยิ่งทำให้วิชาที่เราเรียนไปได้ใช้ประโยชน์ครบถ้วนจริง ๆ “ทุกวันนี้เราทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อได้มากขึ้น เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถสร้างรายได้ได้ หรือ จะเป็นนักข่าวพลเมือง รายงานสถานการณ์หรือเหตุการณ์ของสังคมได้ สิ่งที่เราได้เรียนมาทำให้เราเข้าใจกระบวนการสื่อสารมากขึ้น มีสติในการรับข้อมูลข่าวสารมากขึ้น และที่สำคัญได้นำมาใช้ในการประกอบอาชีพค่ะ”

 

 

มัทนาวดี ไม่ใช่แค่นักศึกษาที่ตั้งใจเรียน แต่เธอเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยสูงถึง 3.70 ซึ่งเมื่อถามถึงเคล็ดลับที่ทำให้ได้เกรดสูงขนาดนี้ เธอตอบว่า สิ่งแรกเลยคือต้องตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์บรรยายในห้องเรียน จดโน้ต และทบทวนก่อนสอบเสมอ อีกเคล็ดลับก็คือ การที่เชื่อเสมอว่า “เราทำได้” เมื่อเชื่อว่าเราทำได้ ก็ทำให้เรามุ่งมั่นและอยากทำให้สำเร็จ

 

ปัจจุบัน มัท-มัทนาวดี เรียนจบแล้วและรอรับปริญญาในปีหน้า และทำงานประจำในตำแหน่ง Digital Marketing อยู่บริษัทแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ โดยมีหน้าที่รับผิดชอบหลัก ๆ คือการสร้างเนื้อหา(Content) และวางแผนการตลาด(Marketing planner) ซึ่งเป็นสิ่งที่ถนัดเพราะเป็นสิ่งที่เราเรียนมา

คณะสื่อสารมวลชน รับสมัครนักศึกษาใหม่ ป.ตรี ภาคพิเศษ

https://www.facebook.com/masscommram/

แชร์เลยตอนนี้ :

ข่าวการศึกษา